- Line
ชาวบ้านสุดทนโพสต์ประจานไฟแดง แยกโรงเรียนบางน้ำจืด บนถนนสายวัดศรีวารีน้อย ซึ่งดับมาเป็นนานนับเกือบครึ่งปีแล้ว ซึ่งเกิดจากอุบัติเหตุ รถพ่วงชนเสาไฟจราจร และเสาไฟฟ้า จนล้มทับบ้านคน เมื่อช่วงเดือนตุลาคม 2563 ล่าสุดตัวแทนกรมทางหลวงลงพื้นที่แล้ว
จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ฅนข่าว ต้นปราการ ได้ออกมาข้อความบนโพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า “แชร์ให้ถึงทางแขวงหลวงชนบทสมุทรปราการ หน่อย ประกาศ!!! ผม นายพงศกร รอดภัย หรือต้นปราการ ให้เวลา 3 วัน ในการแก้ไข ทำให้ติด และกลับมาใช้งาน ของไฟแดง แยกโรงเรียนบางน้ำจืด บนถนนสายวัดศรีวารีน้อย หรือ สป2001 เพราะมันดับมาชาตินึงแล้ว หากหลังจากนี้ 3 วันไฟไม่ติด ผมจะบุกไปไลฟ์สดถามกับ ผอ.แขวง ถึงที่ทำงานของท่าน หากไม่เจอตัวท่าน ผมจะเดินทางไปศาลากลางจังหวัด ไปถามผู้ว่าถึงเรื่องนี้ มันสมควรจะหมดข้ออ้างได้แล้ว เครนะ!! ประกาศ ณ 15 มีนาคม 2564 ต้นปราการ”
โดยหลังจากที่โพสต์นี้ถูกเผยแพร่ออกไปทำให้มีชาวเน็ต ได้มีประชาชนแชร์โพสต์ และคอมเม้นต์ข้อความกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่ ชื่นชมผู้โพสต์ ที่ออกมาเป็นตัวแทนชาวบ้านเรียกร้องให้มีการดำเนินการแก้ไขไฟแดงดังกล่าว พร้อมทั้งคอมเม้นต์ตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นจำนวนมาก
ล่าสุด เมื่อช่วงสายของวันนี้ที่ 17 มีนาคม 2564 ซึ่งเป็นที่ครบกำหนดวันเวลาที่ผู้โพสต์ระบุไว้ ปรากฏว่าได้มี นายช่างโยธาชำนาญงาน ตัวแทนของกรมทางหลวงชนบทสมุทรปราการ และตัวแทนของบริษัทประกันภัย เดินทางมายังที่เกิดเหตุพร้อมด้วยนายพงศกร รอดภัย ผู้สื่อข่าวท้องถิ่นเจ้าของโพสต์ ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งหลังจากที่ลงพื้นที่แล้วทางด้าน นายช่างโยธา ออกมาชี้แจงและรับปากกับนายพงศกร ผู้โพสต์ และเป็นตัวแทนชาวบ้าน ว่า หลังจากนี้จะเร่งดำเนินการซ่อมแซมแก้ไขให้แล้วเสร็จไม่เกินสองสัปดาห์
สำหรับไฟแดงจุดนี้ เป็นสามแยกไฟแดงแยกโรงเรียนคลองบางน้ำจืด ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ บนถนนสาย สป 2001 ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงชนบทสมุทรปราการ ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเดือนตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา เกิดอุบติเหตุรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อหลับในพุ่งชนเสาไฟฟ้า เสาไฟการจราจร และบ้านเรือนประชนจำนวนสามถึงสี่หลังได้รับความเสียหายมีเสาไฟฟ้าแรงสูงหลายต้นหักโค่น จนทำให้สัญญาณไฟจราจรดังกล่าวใช้การไม่ได้ตั้งแต่นั้นมาจนผ่านมาถึงล่าสุดก็ยังไม่มีวี่แววที่จะกลับมาใช้งาน เคยมีตัวแทนชาวบ้านรวมถึงคุณพงศกร ทวงถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโยนความรับผิดชอบให้บริษัทประกันภัย อ้างว่าจากอุบัติเหตุดังกล่าว เกินวงเงินประกันของทางบริษัทประกันภัย ซึ่งอยู่ระหว่างเรียกร้องให้รับผิดชอบซ่อมแซมไฟแดงดังกล่าว ซึ่งนายพงศกร เป็นตัวแทนชาวบ้านระบุว่า การปัดความรับผิดชอบในครั้งนี้ของกรมทางหลวงชนบท มองว่าไม่ยุติธรรมต่อประชาชนที่พักอาศัยและต้องสัญจรผ่านเส้นทางดังกล่าว โดยเฉพาะบุตรหลานที่ต้องมาโรงเรียนในซอยดังกล่าวถึง สาม โรงเรียน แต่กรมทางหลวงชนบทกลับเอาความเสี่ยงในชีวิตและทรัพย์สินของเด็กๆและประชาชนมาเป็นตัวประกัน แทนที่จะซ่อมแทนให้กลับมาใช้งานได้ก่อนแล้วไปฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับบริษัทประกันภายหลัง ซึ่งจุดดังกล่าวมักมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง อีกทั้งถนนสายดังกล่าวมีรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์จำนวนมากที่เข้ามาใช้เส้นทางและขับขี่กันด้วยความเร็วสร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านในพื้นที่