โควิด วันนี้ ติดเชื้อในประเทศกระจายมากถึง 11 จังหวัดกทม.เจอ 21 ราย มีรายงานดับเพิ่ม ยอดสะสม 27,494 ราย ผู้ป่วยรักษากลับมาสูงกว่า 1 พันราย
วันที่ 18 มี.ค. เฟซบุ๊กศูนย์ข้อมูล COVID-19 เปิดเผยสถานการณ์โรคโควิด 19 ประจำวัน ว่า ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 92 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 78 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 14 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รักษาหาย 38 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 27,494 ราย รักษาหายแล้ว 26,377 ราย เหลือรักษา 1,028 ราย เสียชีวิตสะสม 89 ราย ส่วนระลอกใหม่ติดเชื้อสะสม 23,257 ราย หายสะสม 22,200 ราย เสียชีวิตสะสม 29 ราย ภาพรวมติดเชื้อใน 11 จังหวัด ได้แก่ สมุทรสาคร 40 ราย กทม. 21 ราย นครปฐม 5 ราย เพชรบุรี 3 ราย ปทุมธานี 2 ราย สุพรรณบุรี 2 ราย พระนครศรีอยุธยา นนทบุรี ราชบุรี สมุทรปราการ และมุกดาหาร จังหวัดละ 1 ราย
ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อมาจากระบบเฝ้าระวัง 64 ราย ได้แก่ สมุทรสาคร 32 ราย กทม. 20 ราย นครปฐม 4 ราย สุพรรณบุรี 2 ราย พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี ราชบุรี สมุทรปราการ และมุกดาหาร จังหวัดละ 1 ราย
การคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 14 ราย ได้แก่ สมุทรสาคร 8 ราย เพชรบุรี 3 ราย ปทุมธานี นครปฐม และ กทม. จังหวัดละ 1 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ 14 ราย ได้แก่ ฟิลิปปินส์ 3 ราย ฟินแลนด์ 3 ราย อังกฤษ สวีเดน เยเมน สหรัฐอเมริกา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตุรกี ปากีสถาน และเบลเยียม ประเทศละ 1 ราย
ภาพรวมสัปดาห์นี้พบการติดเชื้อ 15 จังหวัด ถือว่าเพิ่มขึ้นจากเดิม ด้านมุกดาหารไข่แตกติดเชื้อเป็นครั้งแรกในระลอกใหม่ ทำให้จังหวัดที่ไม่เคยพบผู้ติดเชื้อเหลือ 12 จังหวัด หลังจากวันก่อนศรีสะเกษเพิ่งไข่แตกไปจากกรณีคลัสเตอร์ตลาดย่านบางแค
สำหรับผู้เสียชีวิตรายใหม่เป็นชายไทยอายุ 65 ปี เป็นผู้ป่วยติดเตียง ด้วยโรคมะเร็งที่โคนลิ้นและมะเร็งปอด อาศัยจ.สมุทรสาคร วันที่ 8 มี.ค. ไปติดตามการรักษาโรคมะเร็งปอดที่ รพ.เอกชน วันที่ 15 มี.ค. เข้ารักษาที่ รพ.เอกชนด้วยอาการไข้สูง หายใจเหนื่อย อาการแย่ลง วัดสัญญาณชีพไม่ได้ และเสียชีวิตในวันเดียวกัน แพทย์สงสัยจึงตรวจหาเชื้อโควิด ผลตรวจพบเชื้อ
สถานการณ์ทั่วโลกผู้ติดเชื้อรวม 121,813,138 ราย เพิ่มขึ้น 528,845 ราย อาการรุนแรง 88,871 ราย รักษาหายแล้ว 98,204,846 ราย เสียชีวิต 2,692,621 ราย เพิ่มขึ้น 9,712 ราย อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด คือ 1. สหรัฐอเมริกา 30,294,798 ราย เพิ่มขึ้น 62,794 ราย 2. บราซิล 11,700,431 ราย เพิ่มขึ้น 90,830 ราย 3. อินเดีย 11,474,302 ราย เพิ่มขึ้ย 35,838 ราย 4. รัสเซีย 4,418,436 ราย เพิ่มขึ้น 8,998 ราย และ 5. สหราชอาณาจักร 4,274,579 ราย เพิ่มขึ้น 5,758 ราย