1 พ.ค.64 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ร.ต.อ. สัตยา วงศ์หาจักร รองสารวัตรป้องกันและปราบปราม สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ นำกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจเข้าจับกุมวงสุราชายหญิงในร้านลาบอีสานที่เปิดขายบนฟุตบาทริมถนนเทพรัตน์ ขาเข้า กม.21 ตำบลศีรษะจรเข้ใหญ่ อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ โดยสามารถจับกุมนักดื่มสุราที่นั่งดื่มสุราอย่างสบายใจภายในร้าน โดยไม่แคร์สายตาสังคมและประชาชนที่สัญจรผ่านไปมา แถมยังไม่มีการเว้นระยะห่างไม่สวมหน้ากากอนามัยขณะร่วมวงสุราอีกด้วย เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนักดื่มทั้งชายหญิงรวม10คน ขณะที่มีหญิงอีกสองคนที่ร่วมวงอาศัยจังหวะเจ้าหน้าที่เผลอรีบขับรถหลบหนีไป บางรายออกอุบายทำทีขอไปเข้าห้องน้ำก่อนจะหายตัวไป
ขณะที่เจ้าของร้านขายลาบทั้งสองร้านซึ่งพบหลักฐานเป็นใบเสร็จคิดเงินค่าสุราและอาหารรวมถึงกล่องสุราและเบียร์จำนวนมากที่วางเกลื่อนหน้าร้านจึงถูกคุมตัวดำเนินคดีด้วยเช่นกัน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหานักดื่มที่มานั่งดื่มสุราโดยไม่กลัวโควิด ในข้อหา ฝ่าฝืนคำสั่งประกาศของจังหวัดสมุทรปราการ ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินในสถานการณ์การแพร่ระบายของเชื้อไวรัสโควิด ตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคระบาย ตาม พ.ร.บ. ควบคุมโรค ว่าด้วยคำสั่งของทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 2165/2564 ฉบับที่ 20 ลงวันที่ 26 เมษายน 2564 ต้องระวางโทษ จำคุกสองปี ปรับสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำและปรับ ส่วนเจ้าของร้าน ถูกดำเนินคดีในข้อหา ฝ่าฝืนคำสั่งของทางจังหวัดเช่นกัน นอกจากนั้นยังพบว่ามีการจำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาตอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างจับกุมพบว่ามีบางรายออกแนวหัวหมอและไม่ยินยอมให้จับกุมโดยอ้างว่าประกาศดังกล่าวมีผลบังคับใช้วันที่ 1 พ.ค. นี้ แถมยังอ้างหลักฐานคำประกาศตามที่กล่าวอ้างมาโชว์ต่อเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จึงใช้หนังสือคำสั่งของทางจังหวัดที่ออกมาและมีผลบังคับใช้มาก่อนหน้านี้ให้เจ้าตัวดู ถึงกับคอตกยอมจำนนเดินขึ้นรถสายตรวจไปโรงพัก
มีรายงานพบว่ามีร้านค้าร้านอาหารในลักษณะเช่นนี้ลักลอบจำหน่ายสุราและให้ลูกค้าดื่มกินในร้านโดยใช้วิธีซุกซ่อนขวดสุราไว้ใต้โต๊ะ ชาวบ้านจึงอยากวอนให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจตราและเอาจริงกับผู้ฝ่าฝืนอย่างจริงจัง.