“โควิดไทย”น่าห่วง พบติดเชื้อรายใหม่ 3,130 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 29 ราย โผล่อีก!”คลัสเตอร์ใหม่” 6 จุด “สมุทรปราการ” หนักสุดเจอ 3 จุด 69 ราย “สภาฯ”พบติดเชื้อเพิ่ม 2 คน จากแม่บ้านเก็บจาน พร้อมสั่งปิด 3 วัน ยันยังควบคุมการแพร่ระบาดได้
เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.64 ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศบค.) พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานว่า วันนี้ พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 3,175 ราย โดยเป็นการติดเชื้อในประเทศ 3,130 ราย โดยมาจากระบบเฝ้าระวังและบริการสุขภาพ 2,089 ราย จากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 901 ราย จากเรือนจำ /ที่ต้องขัง 140 รายและมาจากต่างประเทศ 45 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 221,306 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 29 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตรวม 1,658 ราย รักษาหายเพิ่มอีก 2,030 ราย รวมยอดรักษาหาย 185,789 ราย ยังรักษาอยู่จำนวน 33,859 ราย เป็นการรักษาอยู่ในรพ. 9,224 ราย รพ.สนาม 24,635 ราย ทั้งนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 1,436 ราย ในจำนวนผู้ป่วยหนักนี้ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจถึง 395 ราย
“คลัสเตอร์ใหม่วันนี้มีทั้ง กทม.พบที่โรงงานลูกชิ้น ย่านวงเวียน 22 เขตป้อมปราบฯ สมุทรปราการ 3 จุด สมุทรสาคร โรงงานสิ่งทอ นนทบุรี บริษัทก่อสร้าง สระบุรี โรงเรียนตำรวจ ระยอง ฟาร์มเห็ด และฉะเชิงเทรา บริษัทเชื่อมโลหะ”
สำหรับ 10 อันดับ ที่พบผู้ป่วยภายในประเทศสูงสุด อันดับ 1 ยังเป็นกรุงเทพฯ 624 ราย อันดับ 2 สมุทรปรา การ 544 ราย อันดับ 3 นครปฐม 359 ราย อันดับ 4 ชลบุรี 187 ราย อันดับ 5 สมุทรสาคร 179 ราย อันดับ 6 ปทุม ธานี 165 ราย อันดับ 7 นนทบุรี 117 ราย อันดับ 8 ปัตตานี 84 ราย อันดับ 9 ยะลา 74 ราย อันดับ 10 สงขลา 61 ราย
ที่รัฐสภา นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาฯ กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจคัดกรองโควิด-19 จากกลุ่มเสี่ยง 2 กลุ่ม ภายในรัฐสภา ได้แก่ กลุ่มแม่บ้านเก็บจานและกลุ่มแม่บ้านเสิร์ฟเครื่องดื่มกับอาหารให้รัฐมนตรีและส.ส. ว่า พบการติดเชื้อเพิ่มอีก 2 คน จากกลุ่มแม่บ้านเก็บจาน โดยขณะนี้สำนักงานเลขาธิการสภฯได้ปิดพื้นที่เสี่ยงแล้วเป็นเวลา 3 วัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการร้านอาหารที่ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อก่อนหน้านี้ พร้อมให้ผู้ประกอบการร้านอาหารในกลุ่มพื้นที่เสี่ยงไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 เพิ่มเติม ส่วนกลุ่มแม่บ้านที่เสิร์ฟเครื่องดื่มและอาหารให้รัฐมนตรีนั้น จากการตรวจหาเชื้อไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม แต่ให้สั่งกักตัวให้ครบกำหนดตามมาตรการสาธารณสุข ยืนยันว่ารัฐสภายังสามารถควบคุมการแพร่ระบาดภายในรัฐสภาได้ ซึ่งหากพบผู้ติดเชื้อก็จะมีการตีกรอบการตรวจหาเชื้อและกลุ่มเสี่ยง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด โดยหลังจากที่พบแม่บ้านเก็บจานภายในโรงอาหารของรัฐสภาติดเชื้อโควิด-19นั้น ในวันนี้ (21 มิ.ย.) สำนักงานเลขาธิการสภาฯได้ปรับมาตรการภายในโรงอาหาร โดยการลดจำนวนเก้าอี้ที่โต๊ะอาหาร ให้เหลือเพียงโต๊ะละ 1 ที่นั่ง หรือหากเป็นโต๊ะใหญ่สามารถนั่งได้ไม่เกิน 2 ที่นั่ง และจะมีฉากพลาสติกใสกั้นระหว่างที่นั่ง เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่กระจายของละอองฝอยระหว่างการรับประทานอาหาร
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีหนังสือปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงนามสนับสนุนการฉีดวัคซีนให้พนักงานบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด(มหาชน) รวมถึงฉีดให้กับครอบครัวด้วย แต่ได้ยกเลิกในภายหลัง ว่า เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ออกหนังสือแก้ไขแล้วยืนยันว่าเป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน อย่างไรก็ตามการดำเนินการจะต้องเป็นไปตามนโยบายของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. โดยสรุปคือ มีช่องทางที่จะให้สนับสนุนให้กับบุคคลและกลุ่มบุคคลรวมไปถึงองค์กรได้ แต่ต้องเข้าสู่ช่องทางหมอพร้อม การกระจายวัคซีนเป็นของ ศบค. จะกระจายไปในพื้นที่ใดหรือจำนวนเท่าไหร่ เมื่อกระจายไปแล้วผู้ที่จะดำเนินการต่อคือ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด
“ถือเป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนและไม่มีเจตนาเอื้อประโยชน์ให้ใคร ทุกคนรู้ดีว่าการทำงานของข้าราชการ พรรคการเมือง และรัฐบาล หรือของใครก็แล้วแต่ ต้องตอบสนองต่อประชาชนส่วนใหญ่ ใครที่คิดจะไปตอบสนองต่อกลุ่มใคร สังคมก็จะไม่ยอม ยืนยันกรณีนี้เป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนแต่ก็ได้แก้ไขแล้ว”
เมื่อถามว่า ต่อไปจะต้องมีความระมัดระวังเพิ่มขึ้นหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ก็เป็นธรรมดาแต่เจตนาของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค. มท.)ไม่ได้มีเจตนาที่จะไปเอื้อใคร พูดง่ายๆ คือเจตนาที่จะดูแลประชาชน เป็นหลัก เป็นใครก็ต้องทำอย่างนั้นสังคมจึงจะยอมรับได้ ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นได้