ที่จังหวัดสมุทรปราการ ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ 868 คน กระจายในพื้นที่ 6 อำเภอ และอำเภอเมืองสมุทรปราการ ยังพบผู้ติดเชื้อมากที่สุด 253 คน รองลงมาอำเภอบางพลี 151 คน ที่เหลืออีก 4 อำเภอ พบผู้ติดเชื้อน้อยกว่า 100 คน ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ดีขึ้นเพราะจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงต่อเนื่องจนสถานการณ์เริ่มคลายวิกฤตลง เพราะก่อนหน้านี้บางวันทะลุกว่า 2,000 คน ผู้ติดเชื้อที่พบส่วนใหญ่ยังมาจากคลัสเตอร์ที่พบก่อนหน้านี้ และผู้เสียชีวิตก็ลดลงเช่นกันเหลือ 5 คน
วันนี้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ จะลงพื้นที่ตรวจเชิงด้วยชุดตรวจ ATK กลุ่มเป้าหมายที่พักอาศัยอยู่บริเวณถนนท้ายบ้าน ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองสมุทรปราการ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งจะตั้งจุดบริการที่สวนสาธารณะป้อมปีกกา เพื่อเร่งคัดแยกผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบสาธารณสุข ลดการแพร่เชื้อในชุมชน
ที่จังหวัดชลบุรี วันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 718 คน จากการค้นหาเชิงรุกในสถานประกอบการ แคมป์คนงานก่อสร้าง ตลาดและชุมชน ในพื้นที่ 10 อำเภอ ซึ่งอำเภอเมืองชลบุรี กลับมาพบผู้ติดเชื้อมากที่สุดอีกครั้ง 265 คน ส่วนอำเภอศรีราชา ที่ครองแชมป์ของจังหวัดชลบุรี มานาน วันนี้ลงไปอยู่อันดับ 2 จำนวน 122 คน ขณะที่การติดเชื้อภายในครอบครัวยังพุ่งสูง โดยผู้เสียชีวิตวันนี้ 7 คน
นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี บอกว่าจะเร่งฉีดวัคซีนให้กับบุคคลกลุ่มเสี่ยง โดยทีมงานสาธารณสุข จะลงพื้นที่ฉีดถึงบ้าน คาดว่าสิ้นเดือนกันยายนนี้ จะฉีดกลุ่มนี้ได้ครบ 70 เปอร์เซ็นต์ เพื่อจะได้เปิดเมืองในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ซึ่งขณะนี้ทางผู้ประกอบการมีความพร้อมแล้ว
ที่จังหวัดสมุทรสาคร พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 695 คน จากการเข้ารับการตรวจในโรงพยาบาล 463 คน กลุ่ม Bubble and Seal 175 คน และการค้นหาเชิงรุก 57 คน แต่ตัวเลขผู้เสียชีวิตยังสูงถึง 15 คน นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร บอกว่าแม้แนวโน้มจะดีขึ้นแต่จะยังต้องคงมาตรการที่เข้มงวดต่อไป ส่วนโรงพยาบาลสนามหรือศูนย์ห่วงใยคนสาคร รวมทั้งศูนย์พักคอยคนสาคร หรือ CI และศูนย์กักตัวผู้ติดเชื้อในโรงงาน หรือ FAI จะยังคงอยู่ต่อไปจนถึงช่วงต้นปี 2565 เพื่อพร้อมรับสถานการณ์ เพราะการแพร่ระบาดอาจจะกลับมาอีกก็ได้ ที่สำคัญการแก้ปัญหาโรคโควิด-19 จะต้องสำเร็จได้อย่างยั่งยืน