ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธรรมรักษ์ พรหมมงคล อายุ 42 ปี ได้เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงธรรม อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ว่า เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา ได้รับหนังสือจากเรือนจำ อ.ไชยา ให้ตนมาติดต่อรายงานตัวเนื่องจากเป็นบุคคลพ้นโทษจากเรือนจำกลาง จ.สมุทรปราการ และยังต้องอยู่ในระหว่างติดตามคุมประพฤติ ที่กรมราชทัณฑ์ปล่อยตัวออกมาจากคดีวิ่งราวทรัพย์และคดีการพนัน เหตุเกิดท้องที่ สภ. สำโรงเหนือ จ. สมุทรปราการ
นายธรรมรักษ์ เล่าว่า หลังจากรับหนังสือตนเองก็ตกใจและงงกับหนังสือดังกล่าว เนื่องจากตนไม่เคยไปก่อคดีที่ไหน และไม่เคยเข้าไปอยู่ในคุก จึงนำเอกสารหลักฐานทั้งหมดเดินทางเข้า ลงบันทึกประจำวันกับตำรวจ สภ.ไชยา และตรวจสอบเรื่องดังกล่าวพบว่า ชื่อนามสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลักและ ข้อมูลประวัติ พ่อ-แม่ของตนไปตรงกับข้อมูลบุคคลที่ทางเรือนจำกลาง จ.สมุทรปราการ ปล่อยตัวออกมา จึงเชื่อว่าตนถูกสวมสิทธิไปใช้
ทั้งนี้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก หลังจากตนเองได้ลาออกจากบริษัทดังที่กรุงเทพฯ เพื่อที่จะหางานใหม่ทำ เมื่อตนไปสมัครงานหลายบริษัท ก็ไม่ได้รับเข้าทำงาน และยังทำธุรกรรมทางการเงินอะไรก็ไม่ได้เลย แม้จะซื้อรถก็ไม่ได้ จึงวอนสื่อช่วยเป็นสื่อกลางขอให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ช่วยเหลือตรวจสอบข้อเท็จจริง ตนเองอยากกลับมาใช้ชีวิตอย่างบุคคลปกติทั่วไป.