ศบค.ห่วง กทม. ติดโควิด แนวโน้มเพิ่มขึ้น ทั้งประเทศเจอคลัสเตอร์เพียบ ชี้โรงเรียนถ้าเจอ อย่าปิด ขอความร่วมมือนักท่องเที่ยว Test&Go ตรวจเชื้ออีก 2 ครั้ง
เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
วันที่ 31 ม.ค.65 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์โควิด 19 ประจำวัน ว่า จากการประชุมอีโอซีกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และ ศปก.ศบค. มีรายละเอียด คือ สถานการณ์รายวัน ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8,008 ราย สะสม 2,440,542 ราย หายป่วยมากกว่า 8,215 ราย กำลังรักษา 84,319 ราย อาารหนัก 542 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 106 ราย ผู้เสียชีวิต 16 ราย อยู่ในกลุ่ม 607 ทั้งหมด
ทั้งนี้ 10 จังหวัดติดเชื้อสูงสุดนั้น กทม.ยังติดเชื้อสูงสุด 1,298 ราย ตามด้วย สมุทรปราการ 784 ราย ชลบุรี 466 ราย นนทบุรี 449 ราย ภูเก็ต 393 ราย ปทุมธานี 206 ราย นครราชสีมา 203 ราย ศรีสะเกษ 172 ราย อุบลราชธานี 169 ราย และขอนแก่น 167 ราย
จาการหารือเกี่ยวกับ กทม. ตอนนี้กทม.ยังมีผู้ติดเชื้อทรงตัว และอาจมีแนโน้มเพิ่มข้น ต้องขอความร่วมมือดูแลสุขอนามัยส่วนตัว และยังเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวสีฟ้า รอรับนักท่องเที่ยวระบบ Test&Go จึงขอให้ช่วยกันดูแล สื่อสารถึงคน กทม.ที่จะรองรับนักท่องเที่ยวที่มาในระบบนี้
สำหรับคลัสเตอร์ที่ทำให้เกิดการติดเชื้อและมีความเสี่ยง คือ ร้านอาหาร/สถานบันเทิง พบ ชลบุรี 4 ราย อุดรธานี 3 ราย , สถานพยาบาล กทม. 30 ราย ชลบุรี 8 ราย ลพบุรี 3 ราย นนทุบรี 3 ราย บุรีรัมย์ 3 ราย , สถานศึกษา มีการติดเชื้อเพชรบุรี 19 ราย สุรินทร์ 13 ราย ชลบุรี 12 ราย มุกดาหาร 7 ราย อุดรธานี 7 ราย และบุรีรัมย์ 5 ราย ติดเชื้อ แต่ขอว่าอย่าปิดเรียน การสั่งการปิดโรงเรียนขอให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดและผู้บริหารสถานศึกษาหารือกัน และมองประโยชน์ภาพรวมของนักเรียน อาจปิดเป็นห้องหรือชั้นเรียน
ซึ่งตรงนี้เป็นข้อสั่งการของ ผอ.ศบค. ให้โรงเรียนช่วยกันให้เด็กมีสถานที่เรียน การเรียนเป็นส่วนหนึ่ง แต่เรื่องสังคมของโรงเรียนให้เด็กมาพบปะก็ช่วยสร้างพัฒนาการ และโรคนี้ก็ไม่ได้มีอาการรุนแรงในเด็ก
“ตอนนี้วัคซีนในเด็กอายุ 5-11 ปี สธ.ก็มีการแถลงเมื่อเช้าว่ามีวัคซีนแล้ว โดยเฉพาะกลุ่มป่วยให้เข้ามารับก่อนเพื่อลดการป่วยหนักและเสียชีวิต” นพ.ทวีศิลป์กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สถานที่เดิมๆ ก็ยังพบการติดเชื้อ คือ ตลาด อุบลราชธานี 27 ราย สมุทรสาคร 7 ราย น่าน 22 ราย อุดรธานี 4 ราย ขอนแก่น 4 ราย ศรีสะเกษ 3 ราย , โรงงาน สมุทรปราการ 8 ราย นครพนม 21 ราย ฉะเชิงเทรา 11 ราย สุรินทร์ 6 ราย ลพบุรี 4 ราย ชลบุรี 3 ราย บุรีรัมย์ 3 ราย , สถานที่ทำงาน เช่น ร้านทำผม เพชรบุรี 7 ราย อยุธยา 42 ราย (ไม่ได้แจ้งลักษณะร้าน) , พิธีกรรมทางศาสนา งานแต่งงานศพ มีทั้งที่วัดที่บ้าน งานบวช พบทั้งอุบลราชะานี กาญจนบุรี , ค่ายทหารพบ ปราจีนบุรี 6 ราย ลพบุรี 3 ราย
“นี่คือสิ่งที่ต้องเน้นสถานที่รวมกลุ่มทำกิจกรรมต้องขอความร่วมมือ แต่การคาดการณ์ติดเชื้อมาสู่เส้นสีเขียวแล้ว ขอบคุณทุกคนที่ร่วมมือ เราจะมีข้อกำหนดต่างๆ อย่างไร สิ่งสำคัญคือความร่วมมือในการปฏิบัติ ซึ่งเราได้รับการชื่นชมระดับโลกว่าควบคุมได้ดี เพราะคนร่วมมือกัน ตอนนี้เส้นที่ปราถนาคือต่ำกว่าสีเขียวจะยิ่งดี เช่นเดียวกับผู้เสียชีวิตก็ยังต่ำกว่าเส้นสีเขียว” นพ.ทวีศิลป์กล่าว
เตือน Test&Go
ส่วนวันที่ 1 ก.พ.ที่จะเริ่มให้ลงทะเบียน Test&Go กลับเข้ามา ซึ่งช่วง พ.ย.มีการเข้ามาเยอะถึงหลักแสนราย พอ ธ.ค.พบการติดเชื้อเพิ้มขึ้นจึงลดลงไป ตอนนี้จะกลับมาใหม่ เราอนุญาตให้มาทุกประเทศ เขามาช่วยให้เราพัฒนาเศรษฐกิจไปได้ แต่ต้องเฝ้าระวังการแพร่กระจายของเชื้อ แต่ระบบ test&Go เวอร์ชั่นใหม่มีการปรับปรุงพัฒนา คือ ตรวจ RT-PCR ก่อนมา ก็ตรวจซ้ำวันแรกที่เข้ามาและวันที่ 5 โดยจองโรงแรมทั้งสองวันนี้
ระหว่างกลางจะไปเที่ยวไหนไม่ว่ากัน แต่วันที่ 5 ต้องมาตรวจ ถ้าไม่เจอไปไหนได้ทุกที่ ถ้าเจอก็ได้รับการดูแลโดยรพ.คู่ปฏิบัติการกับโรงแรม SHA+ และจากเดิมระบบประกันวันประกันสิ้นสุดไม่จ่าย เราทำรอบคอบขึ้น จึงขอความร่วมมือให้ประชาชนรับทราบเพื่อช่วยกันสอดส่อง เราจะมีระบบแซนด์บ็อกซ์ พื้นที่นำร่องท่องเที่ยวพื้นที่ปิดเป็นเกาะหรือขยายมาชลบุรีแล้วยังคงอยู่ เพื่อเป็นระบบสำรอง หากต้องมีการปรับปรุง Test&Go
“Test&Go ช่วง ม.ค.ลดลงจากหลักแสนเหลือหลักหมื่นราย ส่วน ม.ค.ประเทศที่เข้ามามากสุด คือรัสเซีย 1.9 หมื่นกว่าคน เยอรมนี สหรัฐอเมริกา และอังกฤษ เข้ามาเกินหมื่นรายทั้งสิ้น ทั้งนี้ มีผู้ฝ่าฝืน 22 ราย ส่วนใหญ่ตามตัวไม่พบหลังตรวจ RT-PCR ว่าติดเชื้อ บางรายไม่อยากขออยู่โรงแรมเดิม หรือเงินไม่พอ
ส่วนใหญ่ไม่พบการปรากฏตัว เราจึงขอให้ตรวจซ้ำวันที่ 5 จึงขอให้ปรากฏตัวและรอผล การประชุมอีโอซีหารือกันว่าต้องพักหรือไม่วันที่ 5 ถ้าผลแล็บออกเร็วสามารถไปได้ทุกที่ ถ้ายังไม่ออกการจองตั้งแต่ต้นก็เพื่อให้ได้พัก หากมากันจำนวนมาก อาจจะไปคอขวดที่ห้องแล็บ จึงให้พักค้างคืนเพื่อติดเชื้อจะได้ดูแลอย่างปลอดภัย” นพ.ทวีศิลป์กล่าว
ฮึ่ม! ฝ่าฝืนมีโทษ
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า การฝ่าฝืนมีโทษตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรค มีอัตราเทียบปรับ ครั้งที่ 1 ไม่เกิน 1 พันบาท ครั้งที่ 2 มากกว่า 1 พันบาท แต่ไม่เกิน 1 หมื่นบาท และครั้งที่ 3 เป็นต้นไปมากกว่า 1 หมื่นบาท แต่ไม่เกิน 2 หมื่นบาท ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาก็ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการด้วย
ส่วนประเทศอื่นๆ โทษแรงกว่านี้อีก อย่างสิงคโปร์ฝ่าฝืนการกักตัว ไม่สวมหน้ากากในที่สาธารณะ จำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นดอลลาร์ หรือทั้งจำทั้งปรับ ไต้หวัน ไม่กักตัว ไม่สวมหน้ากาก รวมตัวมากกว่ากำหนด ปรับ 1 แสน – 1 ล้านเหรียญไต้หวัน ฮ่องกงปรับ 2.5 หมื่นเหรียญ จำคุก 6 เดือน แคนาดา ไม่ตรวจเชื้อวันที่ 0-8 ก็ปรับ 7.5 แสนเหรียญ หรือ 19.6 ล้านบาท ประเทศในสากลก็ทำกัน
ส่วนเรื่อง ATK มีการหารือว่า ถ้าประชาชนต้องการรับการตรวจเพื่อแสดงหลักฐาน ภาครัฐต้องบริการในราคาต้นทุน , สปสช.จัดหา ATK เข้าใจว่าจะมีการประชุมเรื่องนี้ และมีจุดจำหน่ายซื้อขายได้ง่ายทุกแห่งทั่วประเทศ กรมการค้าภายในสำรวจปลายปีที่แล้ว เฉลี่ยมี ATK เข้ามา 20 ล้านชุดต่อเดือน ต้นทุนลดลง 35-229 ราย ราคาก็ถูกลง ขอให้เลือกซื้อเลือกใช้ให้เป็นประโยชน์
Thailand Pass มีคนใช้อีเมล์ปลอมในการไปขอข้อมูลส่วนบุคคล ขออย่าไปเชื้อให้ตรวจสอบให้ดี ใครอยากเข้าประเทศ แล้วมีการอีเมลขอต่างๆ ขอให้อย่าเชื้อสแกนหรือให้ข้อมูลอะไร กระทรวงการต่างประเทศจะเน้นย้ำอีกที