วันนี้ (3 มิถุนายน 2565) นพ.วิชาญ ปาวัน ผู้อำนวยการโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงมีผู้เป็นห่วงเรื่องการกระจายวัคซีนโควิด- 19 ไปยังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) จะทำให้มีปัญหาวัคซีนล้นตู้เก็บในคลังโรงพยาบาลว่า การเปลี่ยนผ่านโรคโควิด 19 ไปสู่โรคประจำถิ่น หนึ่งในมาตรการที่สำคัญ คือ การให้วัคซีนทั้งเข็มปกติและเข็มกระตุ้นให้ครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่ม (Universal Vaccination) โดยแต่ละจังหวัดต้องมีความครอบคลุมการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นไม่น้อยกว่า ร้อยละ 60 แต่จากข้อมูล ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2565 มีความครอบคลุมเข็มกระตุ้นเพียงร้อยละ 41 โดยผู้ที่ครบกำหนดฉีดเข็มกระตุ้นมารับการฉีดประมาณครึ่งหนึ่งเท่านั้น คาดว่ามีผู้ที่ครบกำหนดฉีดเข็มกระตุ้น และรอรับการฉีดเข็มกระตุ้น อีกประมาณ 16 ล้านคน
กระทรวงสาธารณสุขจึงมีนโยบายส่งวัคซีนโควิด- 19 ทั้งซิโนแวค แอสตร้าเซนเนก้า และไฟเซอร์ ไปยัง รพ.สต. ซึ่งเป็นหน่วยบริการที่ใกล้บ้าน และให้บริการแบบ walk in ทุกจุดฉีด เพื่อให้สะดวกในการนำผู้สูงอายุ และผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงไปฉีดวัคซีนใกล้บ้าน พร้อมทั้งเร่งสื่อสาร เชิญชวนให้มารับวัคซีนเข็มกระตุ้น รวมถึงเด็กอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไปด้วย โดยวัคซีนจำนวน 16.7 ล้านโดสสำหรับ รพ.สต. จะทยอยส่งเป็นรอบๆ ไปที่คลังวัคซีน เพียงแห่งเดียวในแต่ละจังหวัด ซึ่งอาจเป็นโรงพยาบาลประจำจังหวัดหรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) และมีการประสานตรวจสอบวัคซีนคงคลังกับแต่ละจังหวัดก่อนส่งเสมอ
ส่วนการกระจายวัคซีนไปที่ รพ.สต.นั้น สสจ.จะจัดส่งตามศักยภาพการฉีดและความจุของตู้เย็นแต่ละ รพ.สต. จึงไม่มีปัญหาเรื่องวัคซีนจะล้นตู้เย็นอย่างที่เป็นข่าว
“ขณะนี้ ยังมีหลายจังหวัดที่ฉีดเข็มกระตุ้นต่ำกว่าร้อยละ20 หากไม่ช่วยกันระดมกำลังและส่งวัคซีนลงพื้นที่ จะส่งผลกระทบต่อแผนเปลี่ยนผ่านสู่โรคประจำถิ่น ข้อมูลจาก สสจ. หลายจังหวัด เช่น ชลบุรี สมุทรปราการ พบว่า การที่ รพ.สต.มีวัคซีนคงคลังเป็นของตนเอง ทำให้เจ้าหน้าที่ รพ.สต. สามารถบริหารจัดการวัคซีนได้ง่ายขึ้น ไม่จำเป็นต้องรอวัคซีนที่ส่งมาจากคลังวัคซีนจังหวัด และเปิดให้บริการแบบ walk-in หรือรับนัดล่วงหน้าได้แบบไม่ต้องจำกัดจำนวน ขณะที่ รพ.สต.อีกหลายแห่งสามารถจัดบริการฉีดวัคซีนเชิงรุกให้กับสถานประกอบการหรือโรงงานที่มีผู้ต้องการฉีดวัคซีนจำนวนมากได้ โดยไม่ต้องรอการอนุมัติจากคลังวัคซีนระดับจังหวัด” นพ.วิชาญกล่าว
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่