วันนี้ (6 ก.ค. 65) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเผยว่า รัฐบาลโดยกระทรวงยุติธรรม ขอเชิญชวนประชาชนที่มีคดีข้อพิพาทก่อนฟ้อง และหลังศาลมีคำพิพากษา ร่วมงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน จังหวัดปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร และยุติธรรมพบประชาชน ภายใต้การบูรณาการความร่วมมือระหว่างกรมบังคับคดี และกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ
ซึ่งจะจัดขึ้นที่ จ.ปทุมธานี ในวันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฎาคม 2565 เวลา 09.00 – 16.30 น. ณ หอประชุม Diamond hall อาคาร A3 ชั้น 5 มหาวิทยาลัยกรุงเทพ จ.ปทุมธานี ที่ จ.สมุทรปราการ ในวันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม 2565 เวลา 09.00 – 16.30 น. ณ เทศบาลตำบลบางปู และ จ.สมุทรปราการ และที่ จ.สมุทรสาคร ในวันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม 2565 เวลา 09.00 – 16.30 น. ณ วิทยาลัยเทคนิคสมุทรสาคร ตำบลมหาชัย อำเภอเมืองฯ จ.สมุทรสาคร
นายธนกรย้ำว่า โครงการมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน ที่ขับเคลื่อนโดยกระทรวงยุติธรรม ภายใต้การนำของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม “มีหนี้ต้องแก้ไข รุกก้าวไปอย่างยั่งยืน” โดยที่ผ่านมาได้จัดไปแล้ว จำนวน 39 จังหวัด ซึ่งได้รับผลตอบรับจากประชาชนเข้าร่วมงานมากกว่า 48,500 คน ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 28,314 ราย ทุนทรัพย์กว่า 6,602 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 99.42 ของผู้เข้าร่วมไกล่เกลี่ย ถือเป็นความสำเร็จตามนโยบายรัฐบาลที่กำหนดให้ปี 2565
ซึ่งเป็นปีแห่งการแก้หนี้ภาคครัวเรือน สำหรับในครั้งที่ 40 มีกำหนดจัดขึ้นในวันนี้ (6 กรกฎาคม 2565) ณ โรงแรมพีซี แกรนด์พาเลซ จ.สกลนคร และยังคงมีกำหนดจัดงานอย่างต่อเนื่องในเดือนกรกฎาคม 2565 อีกจำนวน 23 จังหวัด
ประชาชนที่ต้องการเข้าร่วมไกล่เกลี่ยหนี้ ขอให้ติดตามรายละเอียดจากกระทรวงยุติธรรมซึ่งจะยังคงเดินหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้สินครัวเรือน ผ่านมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ จนถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2565 นี้ ตามนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในการเร่งช่วยเหลือประชาชน ในการแก้ไขปัญหาหนี้สินอย่างเป็นธรรม
ทำให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้และลูกหนี้สามารถชำระหนี้ได้ ลดการฟ้องคดี เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจัดให้บริการคำปรึกษาทางกฎหมายเกี่ยวกับการบังคับคดีและมอบเอกสารประชาสัมพันธ์ให้แก่ประชาชนที่มาร่วมงาน
โดยเน้นถึงความปลอดภัยตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ ประชาชนที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ โทร 0 2141 2767-8 และกรมบังคับคดี สายด่วน 1111 กด 79