ประเด็นเด็ด 7 สี – ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เผยว่า เตรียมขนย้ายสารสไตรีน ที่ตกค้างอีกกว่า 600 ตัน ไปทำลายที่บริษัทในนิคมอุตสาหกรรมบางปู คาดว่าจะใช้เวลาอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 5 วัน จึงจะแล้วเสร็จ
นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสรุปแนวทางการกำจัดสารเคมีที่ตกค้างอยู่ในถังกักเก็บ โรงงานหมิงตี้ เคมีคอล พร้อมประเมินความเสี่ยงรอบด้านเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด
การประชุมใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง ก่อนได้ข้อสรุป จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้เพลิงสงบแล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ โดยช่วง 23.00 น. วานนี้ ได้ทำการลำเลียงสารดีอาร์กว่า 600 ลิตร ขึ้นไปเทใส่ปล่องเหนือถังเก็บสารสไตรีน เพื่อแปรสภาพและควบคุมไม่ให้เกิดปฏิกิริยาความร้อน และเป็นที่แน่นอนแล้วว่าสามารถจัดการสารเคมีทั้งในและนอกถังทั้งหมดได้แล้ว
จากนี้จะวางแผนขนถ่ายสารเคมีทั้งหมดไปทำลายทิ้งที่บริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู ให้ปลอดภัยที่สุด ส่วนแผนการดำเนินการนั้นต้องรอผลการตกลงเงื่อนไขระหว่างบริษัทผู้รับจัดการ และบริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้าง ต้องเป็นผู้ทำสัญญาก่อนจะพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป
สำหรับขั้นตอนการขนถ่ายสารสไตรีนออกจากพื้นที่ จะใช้รถไอโซแท็งก์ ขนาดความจุ 24 คิว โดยพื้นที่ในแท็งก์จะต้องมีระบบเซฟตีวาล์ว และป้องกันการปนเปื้อนของออกซิเจน ทั้งนี้จากการสำรวจแท็งก์กับเก็บสารสไตรีนนั้น พบว่ามีทั้งหมด 5 ตัว แต่มี 2 ตัวที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ คือ วาล์วเข้า และออก โดยการถ่ายนั้นจะต้องใช้ระบบดูดเพื่อลดความเสี่ยง และควรจะนำรถไอโซแท็งก์เข้าไปใกล้บริเวณถังเก็บให้มากที่สุด
เบื้องต้น สารสไตรีนที่อยู่ในถังเก็บมีอยู่ประมาณ 600 ตัน หรือราว 600,000 ลิตร ขณะนี้ยังไม่มีปัญหาอะไร แต่หากอุณหภูมิเกิน 45 องศาเซลเซียสขึ้นไป และไปทำปฏิกิริยากับออกซิเจนเมื่อไหร่ก็อาจจะเป็นอันตราย ดังนั้นการขนย้ายไปที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู จำเป็นต้องใช้ความระวัง และรถเคลื่อนย้ายทุกคันต้องมีระบบจีพีเอสติดตาม โดยวิ่งตามที่กฏหมายกำหนด คือไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนในการกำจัดสารเคมีตัวนี้ต้องนำไปเผาในเตาอุณหภูมิสูงกว่า 1,000 องศาเซลเซียสขึ้นไปเท่านั้น
ขณะเดียวกัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ขอความร่วมมือประชาชนที่มีบ้านอยู่ภายในรัศมี 1 กิโลเมตร อย่าเพิ่งกลับเข้าที่พักอาศัยโดยขอให้อยู่ในศูนย์พักพิงก่อน เพื่อรอผลประเมินเรื่องความปลอดภัยในการเคลื่อนย้ายสารเคมี คาดว่าจะรู้ผลภายใน 2 วันนี้ (10 ก.ค.)