3 ก.ค.2565-ที่สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.ท.พงศ์ภัค สิริพัฒนพงศ์ สว.(สส.)สภ.เมืองขอนแก่น ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมนายศราวุธ ภูหารนา อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 102 ม.11 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาล จ.ขอนแก่น ที่ จ.197/2565 หลังก่อเหตุใช้อาวุธมีดทำร้ายร่างกาย น.ส.เอ (นามสมมุติ) นักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในเขต จ.ขอนแก่น เหตุเกิดภายในหอพัก ในพื้นที่ บ.โนนม่วง อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ภายในบ้านพัก ที่ จ.กาฬสินธุ์
พ.ต.อ.ปรีชา กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้คบหากับฝ่ายหญิงมาได้ประมาณ 7 เดือน โดยได้รู้จักกับฝ่ายหญิงเนื่องจากทำงานเป็นพนักงานขับรถเทเลอร์ที่เดียวกันกับพ่อของฝ่ายหญิง จึงได้รู้จักและมีการคบหากัน โดยก่อนเกิดเหตุ ในช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 30 มิ.ย ผู้ต้องหา ได้เห็นสตอรี่เฟซบุ๊กของฝ่ายหญิงพบว่า อยู่ที่สถานบันเทิง จึงพยายามโทรศัพท์หาฝ่ายหญิงแต่ก็ไม่รับสาย ทำให้เกิดอารมณ์โมโหและคิดว่าน่าจะมีอะไรหรือไม่ จึงขับรถยนต์กระบะมาจาก จ.สมุทรปราการ มาหาฝ่ายหญิงที่ จ.ขอนแก่น
จากนั้นก็ได้เข้าไปหาฝ่ายหญิงที่หอพักที่เกิดเหตุ ก่อนจะมีปากเสียงกัน โดยนายศราวุธ ได้ใช้อาวุธมีดที่พกติดตัวมาจี้บังคับให้ฝ่ายหญิงถอดเสื้อผ้าออก ก่อนจะมีการยื้อแย่งอาวุธมีดกัน ผู้ต้องหาจึงตบตีทำร้ายร่างกายฝ่ายหญิงและใช้มีดแทงเข้าที่บริเวณเอวและแขนของฝ่ายหญิงได้รับบาดเจ็บ ฝ่ายหญิงจึงพยายามเจรจาจนนายศราวุธ ยอมอ่อนมือลง จังหวะนั้นฝ่ายหญิงจึงตะโกนขอความช่วยเหลือเพื่อนร่วมหอพัก และสบจังหวะที่ผู้ต้องหาเผลอวิ่งหลบหนีออกมาจากห้องพักที่เกิดเหตุ จนมีคนมาช่วยไว้ได้และแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ
ผู้ต้องหายอมรับว่า เป็นคนก่อเหตุจริง เพราะหึงหวงฝ่ายหญิง และฝ่ายหญิงไม่ได้คิดที่จะคบหาเป็นแฟน มีเพียงฝ่ายชายที่คิดไปเองฝ่ายเดียว อย่างไรก็ตามภายหลังการสอบปากคำแล้วเสร็จ จึงตั้งข้อกล่าวหาว่ากระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปี โดยขู่เข็นด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส และทำร้ายร่างการผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส และข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดหรือไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต พร้อมทั้งควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป