วันที่ 12 ก.ย. 65 ในเขตพื้นที่ กทม. ฝนตกหนักหลายพื้นที่ ในโซเชียลฯ แห่แชร์ภาพน้ำท่วมขัง ทั้งในลานจอดรถชั้นใต้ดินเซ็นทรัลเวิลด์, รถติดบริเวณ 5 แยกลาดพร้าว รวมไปถึงเขตพญาไท และ ม.เกษตร
โดยเขตพื้นที่ใน กทม. ที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมขัง มีด้วยกันทั้งหมด 11 เขต ได้แก่ เขตดอนเมือง, เขตหลักสี่, เขตบางเขน, เขตลาดพร้าว, เขตสะพานสูง, เขตประเวศ, เขตมีนบุรี, เขตหนองจอก, เขตลาดกระบัง, เขตคลองสามวา และ เขตสายไหม
ล่าสุดทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ย่านวัดลาดกระบัง ฝั่งตรงข้ามคลองประเวศบุรีรมย์ พบว่าระดับน้ำยังท่วมสูงถึงเข่า รถสัญจรไปมาได้ลำบาก
ทีมข่าวพูดคุยกับ พี่แป๊ะ ชาวบ้านย่านวัดลาดกระบัง ฝั่งตรงข้ามคลองประเวศบุรีรมย์ กับ ถ.ลาดกระบัง บอกว่า ที่บ้านก็น้ำท่วมขังถึงเข่า ประมาณ 30 ซ.ม. มาเป็นสัปดาห์แล้ว เรื่องหาอาหารการกินลำบาก คนก็ไม่ค่อยออกมาขายอาหาร ถ้าเป็นไปได้อยากให้หน่วยงานในเขตลาดกระบังมาแจกข้าวของ หรือถุงยังชีพ บรรเทาความเดือดร้อน ตอนนี้ที่ต้องระวังคือสัตว์มีพิษ เช่น ตะขาบ หรือ ปลิง ก็มาเยอะกับน้ำ เข้าบ้านก็มี
ส่วนเรื่องน้ำท่วมขังมีทุกปีแต่ปีนี้หนักกว่าเดิม แต่ก็ต้องอดทนและปรับตัวรอจนน้ำระบาย โดยอยากให้จังหวัดอื่น ๆ เช่น จ.สมุทรปราการ จ.ฉะเชิงเทรา ช่วยรับน้ำไปด้วย หวังพึ่งทางผู้ว่าฯ กทม. อย่างเดียวก็ไม่ได้
ทีมข่าวพูดคุยกับ คุณธนู เจ้าหน้าที่ประตูระบายน้ำลาดกระบัง กทม. ได้ข้อสรุปเรื่องประตูสรุปว่า 1. เปิดประตูระบายน้ำตลอดไม่ได้ปิด อย่างที่ชาวบ้านกังวลกัน แต่เปิดได้เพียง 80 ซ.ม. เทียบจากตอนเช้าที่เปิดเพียง 60 ซ.ม. เพื่อให้น้ำระบายไปทิศตะวันตกสู่ปลายทางคลองพระโขนง ก่อนระบายออกแม่น้ำเจ้าพระยา
2. จะเปิดประตูระบายน้ำมากก็ไม่ได้ เพราะน้ำจะล้นเอ่อเข้าตัวเมืองที่คลองพระโขนงที่ระดับน้ำก็สูงอยู่แล้ว ซึ่งฝั่งทางไปคลองพระโขนง มีมาตรวัดระดับสูงกว่าน้ำทะเลปกติ 60 ซ.ม. ซึ่งก็สูงกว่าเกณฑ์ปกติ (30 ซ.ม.) เท่าตัว
3. ฝั่งคลองประเวศบุรีรมย์ ที่รับน้ำจากลาดกระบังก็เต็มปริ่มล้นเอ่อระบายได้น้อย บวกกับฝนและน้ำเสริมมาจากหนองจอกอีก ทำให้ระดับน้ำสูงกว่าเมื่อปี 54 ไปแล้ว โดยมีมาตรวัดระดับสูงกว่าน้ำทะเลปกติ 80 ซ.ม. (ปี 54 อยู่ที่ 71 ซ.ม.)
4. เจ้าหน้าที่ประตูระบายน้ำ อยากสื่อสารกับชาวบ้านลาดกระบังว่า เข้าใจถึงความลำบาก เปิดประตูระบายน้ำให้ตลอด เมื่อคืนผู้ว่าชัชชาติก็มากำชับให้เปิดด้วยตัวเอง แต่เปิดสูงมากไม่ได้เพราะน้ำจะไหลเข้า กทม. ชั้นใน ต้องรอทางพระโขนงระบายออกเจ้าพระยาให้มากกว่านี้ก่อน
อีกหนึ่งสถานที่ ที่ได้รับผลกระทบคือลานจอดรถใต้ดินอาคารเฉลิมพระเกียรติ คณะวิศวะฯ (ภาคอินเตอร์ฯ) ภายในสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) มีน้ำทะลักท่วมขัง สูงท่วมเครื่องยนต์รถ แม้จะนำกระสอบทรายมากั้นแล้ว ภายหลังมีฝนตกหนักสะสมต่อเนื่องหลายวัน ทำให้รถยนต์ถึง 21 คันเสียหาย รถทั้งหมดเป็นของบุคลากรและอาจารย์ของมหาวิทยาลัย
ช่วงเย็นที่ผ่านมาทีมข่าวตรวจสอบที่เกิดเหตุ ลานจอดรถใต้ดินอาคารวิศวะอินเตอร์น้ำเริ่มแห้งแล้ว เพราะเริ่มมีการเร่งสูบน้ำออกจากลานจอดตั้งแต่ช่วงเช้า แต่รถที่จอดอยู่พบมีรอยคราบน้ำ ร่องรอยการท่วมถึงขอบกระจกรถสูงประมาณ 1 เมตร โดยรถที่เหลือ 11 คัน ที่จอดอยู่ยังไม่มีเจ้าของเข้ามาดู รอประกันเข้ามาตรวจสอบ
สภาพโดยรอบสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ยังมีน้ำท่วมขังตามพื้นถนน โดยเฉพาะทางเข้ามหาวิทยาลัย สูงประมาณ 15-20 ซ.ม. ทางมหาวิทยาลัยประกาศให้นักศึกษาหยุดเรียน ตั้งแต่วันที่ 12-16 ก.ย. 65 ส่วนจะกลับมาเรียนออนไลน์ หรือกิจกรรมใดที่จำเป็นต้องเข้าสถาบัน ให้จัดตามดุลยพินิจของคณบดี นอกนั้นขอให้งดเข้าพื้นที่
ในขณะเดียวกัน สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.สมุทรปราการ ยังคงมีหลายพื้นที่ ที่น้ำยังท่วมขังอยู่ ในขณะที่เพจเฟซบุ๊ก สมุทรปราการ ได้โพสต์คลิปแชร์วิธีการเรียนรู้ที่จะอยู่กับน้ำในวันที่น้ำท่วม
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่หมู่บ้านพูนสุข ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พบว่าน้ำยังท่วมขังอยู่ สูงกว่า 1 เมตร ขังมานานกว่า 5 วัน สภาพน้ำคือมีสีดำแล้ว
จากการสอบถามชาวบ้าน ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน เผยว่า น้ำค่อนข้างสูงรถเล็กออกไม่ได้เลย ท่วมขังมา 5 วัน แล้ว ปีที่แล้วไม่น้ำเยอะขนาดนี้
ในขณะที่ นางสาวนันทิดา แก้วบัวสาย นายกองค์การบริหารส่วน จ.สมุทรปราการ ยืนยันว่าได้มีการส่งเครื่องสูบน้ำให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้มีการร้องขอมา จำนวน 150 เครื่อง รวมทั้งได้ประสานทำงานร่วมกับ ปภ. จังหวัด ในอำเภอหลายพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ซึ่งต้องยอมรับว่าระดับน้ำในคลองยังคงสูง เลยยังระบายน้ำไม่ได้ต้องรอให้น้ำในคลองลดลงก่อน
พื้นที่ใน จ.สมุทรปราการ ที่ได้รับผลกระทบ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.บางพลี อ.บางเสาธง อ.บางบ่อ รวมกว่า 16 ต. 125 หมู่บ้าน