ภูมิภาค
หนุ่มไชยาช็อค ถูกสวมชื่อเป็นผู้ต้องขังพ้นโทษ สมัครงาน-ทำธุรกรรมทางการเงินไม่ได้
วันพฤหัสบดี ที่ 04 มีนาคม พ.ศ. 2564, 12.11 น.
คลิกที่นี่
วันที่ 09.00 น. วันที่ 4 มี.ค.64 นายธรรมรักษ์ พรหมมงคล อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 97 หมู่ 1 ตำบลพุมเรียง อำเภอ ไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี พนักงานบริษัทชื่อดังในกรุงเทพฯ ได้เข้าร้องเรียนกับศูนย์ดำรงค์ธรรมอำเภอไชยาว่า ตนเองเป็นผู้ถูกสวมสิทธิ์ ชื่อ นามสกุล และเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก ไปก่อคดี
โดยเล่าทั้งน้ำตาให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าได้ลาออกจากบริษัทชื่อดังที่กรุงเทพฯ เพื่อที่จะหางานใหม่ทำ แต่ปรากฏว่าเมื่อไปสมัครงานหลายบริษัท หลายที่ก็ไม่มีบริษัทไหนรับเข้าทำงาน และทำธุรกรรมทางการเงินไม่ได้ จะซื้อรถก็ไม่ได้ และเมื่อวันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา ได้มีหนังสือแจ้งจากกรมราชทัณฑ์อำเภอไชยา ซึ่งได้รับหนังสือจากเรือนจำกลางสมุทรปราการให้มาติดตามบุคคลพ้นโทษในพื้นที่อำเภอไชยา
ต่อมาปรากฏว่าเจ้าหน้าที่เรือนจำอำเภอไชยาได้ติดต่อตนให้มารายงานตัวเนื่องจากเป็นบุคคลพ้นโทษจากเรือนจำสมุทรปราการซึ่งตนเองก็ตกใจและงุนงงกับหนังสือดังกล่าว จึงตรวจสอบดูปรากฏว่า ชื่อนามสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลประวัติของตนไปตรงกับข้อมูลคนพ้นโทษดังกล่าว ซึ่งเป็นชื่อตนนามสกุลตนเลขบัตรประจำตัวประชาชนก็เป็นของตนเอง จึงนำเอกสารหลักฐานทั้งหมดเดินทางเข้า ลงบันทึกประจำวันกับตำรวจ สภ.ไชยา และเดินทางเข้าศูนย์ดำรงธรรมที่ว่าการอำเภอไชยา จ. สุราษฎร์ธานี เพื่อช่วยเหลือทำให้เป็นผู้บริสุทธิ์ไม่มีคดีติดตัว และสามารถสมัครงานได้ ให้กลับมาทำนิติกรรมทุกอย่างได้เหมือนเดิมเพราะบัญชีธนาคารถูกอายัดทั้งหมด
สำหรับคนที่สวมบัตรประชาชนตนนั้นได้ไปก่อเหตุคดีวิ่งราวทรัพย์และคดีการพนัน ที่สภ. สำโรงเหนือ จ. สมุทรปราการมา และยังเป็นผู้ต้องขังที่ได้รับการปล่อยตัวมา ทำให้ตอนนี้ตนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมากจึงอยากวิงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยเหลือหาทางออกให้ตนเองโดยเร็วเนื่องจากขณะนี้เดือดร้อนมากและยังรู้สึกเสียใจอย่างมากกับคำพูดของเจ้าหน้าที่บางคนพูดมาว่าจะเอาอะไรนักหนาเมื่อคนนั้นถูกปล่อยตัวแล้วเรื่องก็จบ ใช่จริงอยู่เรื่องคดีจบแต่ประวัติตนเองเสีย หากเจ้าหน้าที่ไม่ช่วยเหลือแก้ไขให้ถูกต้องมันจะมีประวัติติดตัวไปตลอด
คลิกที่นี่