-
Goalthailand
ฉัตรชัย บุตรพรม (ผู้รักษาประตู) – บีจี ปทุมฯ
นายด่านวัย 34 ปี มีส่วนสำคัญกับการคว้าแชมป์ไทยลีกครั้งแรกของ เดอะ แรบบิท เมื่อตลอดฤดูกาล ฉัตรชัย เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นที่ช่วยให้ทีมมีเกมรับที่แข็งแกร่ง นอกจากคอยสื่อสารกับ 3 ปราการหลังได้ดีแล้ว เขายังโชว์ให้เห็นถึงความเก๋า และ ปฏิกิริยายอดเยี่ยม เซฟลูกยากๆ ช่วยทีมรอดพ้นการเสียประตูหลายต่อหลายครั้ง
ก่อนช่วยทีมเสียไปเพียง 13 ประตูน้อยที่สุดในลีก และ ยังเก็บคลีนชีตไปได้ถึง 19 นัดมากที่สุดในลีก จนขึ้นแท่นเป็น ผู้รักษาประตูไม่เสียประตูต่อเนื่องนานสุดตลอดกาลอันดับ 2 ด้วยผลงาน 643 นาที ที่สำคัญ ยังเป็นผู้เล่นเพียงรายเดียวในทีม ที่ลงเล่นครบทุกนาที จาก 30 เกม
-
RMFC
ฟิลิป โรเลอร์ (แบ็คขวา) – ราชบุรี มิตรผลฯ
กัปตันทีมจากราชบุรี มีผลงานที่โดดเด่นสุดๆ ในฤดูกาลนี้ เพราะไม่ว่าจะประจำการตำแหน่งแบ็คขวา หรือ ถูกดันขึ้นมาเล่นเกมรุกเต็มตัว ฟิลิป ก็โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะการเติมเกมบุกทางฝั่งขวา ที่กลายเป็นอาวุธอันตรายที่สุดของทีม
ก่อนทำไปถึง 14 ประตู จาก 29 นัด คว้าตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดแข้งไทยไปครอง ที่สำคัญ ยังช่วย ราชันมังกร ได้สิทธิ์ลุย ACL รอบแบ่งกลุ่ม เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ จากการจบอันดับ 4 ในเลกแรก
-
Goalthailand
วิคเตอร์ คาร์โดโซ (กองหลัง) – บีจี ปทุมฯ
นอกจากทำหน้าที่ ‘ผู้นำ’ ในเกมรับได้แข็งแกร่ง และ เหนียวแน่นแล้ว กองหลังชาวบราซิล ยังกลายเป็นทีเด็ดสำคัญในจังหวะเซ็ตพีชให้ทีม เมื่อโดดเด่นอย่างมากในลูกกลางอากาศ ก่อนช่วยทีมเสียไปเพียง 13 ประตูน้อยที่สุดในลีก
อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความนิ่ง และ เฉียบขาด โดยมีสถิติการซัดจุดโทษเข้า 100% จาก 10 ลูก กระทั่งซัลโวไปถึง 15 ประตู ขึ้นแท่นเป็นกองหลังพังประตูมากสุดตลอดกาลต่อหนึ่งฤดูกาล พร้อมช่วย บีจี ปทุมฯ ผงาดคว้าแชมป์ไทยลีกครั้งแรกมาครอง
-
Goalthailand
เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว (กองหลัง) – นครราชสีมา เอฟซี
บนวัย 34 ปี เฉลิมพงษ์ ยังเป็นหัวใจสำคัญเกมรับที่ทีมขาดไม่ได้ และ ไม่ใช่เรื่องง่ายกับการที่ทีมใช้ผู้เล่นไทยในแผง ‘แบ็คโฟร์’ ทั้งหมด แต่เขาก็สามารถทำหน้าที่ประคองทีมได้ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะช่วงเลกสอง ที่เล่นได้แข็งแกร่ง เหนียวแน่น และ ยังมีคาแรคเตอร์ความเป็นผู้นำสูง จนช่วยให้ทีมสร้างสถิติไม่แพ้ใครถึง 9 นัดติดต่อกัน
อีกทั้งยังเป็นผู้เล่นที่เคลียร์บอลมากที่สุดในลีกถึง 152 ครั้ง และ ยังเป็นแข้ง ‘เอาท์ฟิลด์’ เพียง 1 ใน 2 รายในลีก ที่ลงเล่นครบทุกนาทีจาก 30 นัด พร้อมพา สวาทแคท ขยับจากโซนท้ายตาราง ขึ้นมาจบอันดับ 9 อย่างเต็มภาคภูมิ
-
Buriram
ศศลักษณ์ ไหประโคน (แบ็คซ้าย) บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
วิงแบ็คซ้ายทีมชาติไทยวัย 25 ยังพัฒนาตัวเองขึ้นทุกปี เช่นเดียวกับฤดูกาลนี้ที่ ศศลักษณ์ เล่นเกมรับได้เหนียวแน่น และ มีวินัยมากขึ้น ส่วนเกมรุกก็ยังทำได้โดดเด่น เมื่อเติมขึ้นมาสร้างโอกาสลุ้นประตูให้ทีมได้หลายครั้ง
ก่อนทำไป 5 แอสซิสต์ จาก 26 นัด มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในบรรดาผู้เล่นตำแหน่งเดียวกัน ที่สำคัญ ยังแสดงให้เห็นถึงความฟิตยอดเยี่ยม จากการเป็นผู้เล่นวิ่งเยอะที่สุดของทีมแทบทุกเกม พร้อมช่วย ปราสาทสายฟ้า เบียด การท่าเรือ เอฟซี ขึ้นมาจบอันดับ 2 ของตาราง
-
Goalthailand
สุมัญญา ปุริสาย (กองกลาง) บีจี ปทุมฯ
ในวัย 34 ปี MVP ไทยลีก 2018 ยังแสดงให้เห็นถึงคุณภาพฝีเท้าที่ยอดเยี่ยม เมื่อตลอดฤดูกาล สุมัญญา มีอิทธิพลอย่างยิ่งต่อเกมรุกของทีม โดดเด่นทั้งจังหวะการสร้างสรรค์โอกาส , พาบอลลุยขึ้นหน้าไปเอง และ ยังมีลูกยิงไกลเป็นทีเด็ด
โดยกดไป 4 ประตู และ 6 แอสซิสต์มากที่สุดในทีม พร้อมโชว์ให้เห็นถึงสภาพร่างกายที่ดี โดยเป็นผู้เล่นเอาท์ฟิลด์ ที่ลงเล่นให้ทีมมากที่สุดถึง 29 นัด ก่อนคว้าแชมป์ไทยลีกมาครองได้เป็นครั้งแรกในชีวิต
-
Goalthailand
สารัช อยู่เย็น (กองกลาง) บีจี ปทุมฯ
ห้องเครื่องวัย 28 ปี เป็นหนึ่งในดีลยอดเยี่ยมที่สุดของ บีจี ปทุมฯ ในฤดูกาลนี้ เมื่อการมาของเขาทำให้แดนกลางแข็งแกร่งขึ้นชัดเจน โดยเฉพาะในแง่การคุมจังหวะ ที่มีส่วนร่วมกับทั้งเกมรุก และ เกมรับ อยู่ตลอด
ที่สำคัญยังขับเคลื่อนแดนกลางร่วมกับ ฐิติพันธ์ และ สุมัญญา ได้อย่างลงตัว จนกลายเป็น 3 มิดฟิลด์ดีที่สุดในลีก พร้อมทำไป 4 แอสซิสต์ จาก 24 นัด พา เดอะ แรบบิท คว้าแชมป์ไทยลีกสมัยแรกมาครอง หลังรอคอยมานานถึง 12 ปี
-
Goalthailand
เซร์คิโอ ซัวเรซ (กองกลาง) การท่าเรือ เอฟซี
แม้ว่า สิงห์เจ้าท่า จะทำผลงานตกลงไปช่วงเลกสอง.. แต่ “คิง ซัวเรซ” ก็ยังรักษามาตรฐานฟอร์มส่วนตัวได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อตลอดฤดูกาล ดาวเตะชาวเปนวัย 34 ปี ยังเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในการขึ้นเกมรุก
โดดเด่นทั้งจังหวะสร้างสรรค์โอกาส และ จบสกอร์ ก่อนทำไปถึง 15 ประตูเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีม และ 4 แอสซิสต์ พร้อมช่วย สิงห์เจ้าท่า จบอันดับ 3 ของตาราง คว้าตั๋วลุย ACL 3 ฤดูกาลติดต่อกัน
-
Goalthailand
เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ (ปีกขวา) สมุทรปราการ ซิตี้
ปีกขวาวัย 23 ปี ก้าวข้ามดาวรุ่งเป็นที่เรียบร้อย เมื่อยกระดับตัวเองขึ้นไปอีกขึ้น โดยตลอดฤดูกาล เจริญศักดิ์ โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม กลายเป็นอาวุธสำคัญทางฝั่งขวา ที่มีทั้งความเร็ว , การเปิดบอลที่แม่นยำ และ ยังพัฒนาจังหวะยิงไกลมาเป็นอีกหนึ่งจุดเด่น
โดยขึ้นแท่นเป็นผู้เล่นไทยคนแรกในรอบ 4 ฤดูกาล ที่ครองตำแหน่งแอสซิสต์สูงสุด ด้วยผลงาน 14 ครั้ง และ ยังทำไป 3 ประตู ที่สำคัญยังมีสถิติลงสนามถึง 29 นัด มากที่สุดในทีม พร้อมช่วย เขี้ยวสมุทร จบอันดับ 6 ของตาราง
-
Goalthailand
เดนนิส มูริลโล (กองหน้า) นครราชสีมา เอฟซี
นับตั้งแต่ย้ายมาเล่นในไทยเมื่อปี 2016 นี่เป็นฤดูกาลที่มือปืนคู่บุญ โค้ชโจ โชว์ฟอร์มพีคที่สุด โดย มูริลโล เป็นกองหน้าที่จบสกอร์ได้ทุกรูปแบบ โดยเฉพาะเท้าซ้ายของเขาที่อันตราย และ เฉียบคมอย่างมาก
ก่อนกระหน่ำไปถึง 21 ประตู จบด้วยตำแหน่งรองดาวซัลโวสูงสุด และ ยังทำไป 3 แฮตทริค มากที่สุดเท่ากับ บาร์รอส ทาร์เดลี ของ สมุทรปราการ ซิตี้ พร้อมช่วย สวาทแคท ขยับขึ้นมาจบเลขตัวเดียว อันดับ 9 ของตาราง
-
Goalthailand
บาร์รอส ทาร์เดลี (ปีกซ้าย) สมุทรปราการ ซิตี้
กองหน้าวัย 30 ปี มีเส้นทางค้าแข้งไม่ธรรมดา เมื่อไต่เต้าจากทีมฟุตซอลในไทย ขึ้นมาเป็นดาวยิงอันตรายที่สุดในไทยลีกปีนี้ โดยตลอดฤดูกาล ทาร์เดลี เป็นมือปืนที่กุนซือ อิชิอิ ขาดไม่ได้ สามารถเล่นร่วมกับเพื่อนได้ดี , เคลื่อนที่หาช่องวางในเขตโทษได้ฉลาด และ ยังจบสกอร์เฉียบคม
โดยทำไปถึง 25 ประตู 3 แฮตทริค กลายเป็นผู้เล่นชาวบราซิล รายที่ 5 ในประวัติศาสตร์ ที่คว้าดาวซัลโวสูงสุดไปครอง พร้อมช่วย เขี้ยวสมุทร จบอันดับ 6 ของตาราง
-
BG
ดุสิต เฉลิมแสน (หัวหน้าผู้ฝึกสอน) บีจี ปทุมฯ
อดีตแบ็คซ้ายดาราเอเชียวัย 50 ปี พิสูจน์ฝีมือในการเป็นกุนซือได้สำเร็จ นอกจากในแง่แท็คติค และ ‘เชพทีม’ ที่วางได้ดีแล้ว เขายังหล่อหล่อมให้ทีมมีสปิริตที่แข็งแกร่ง รวมถึง ยังรู้วิธีซื้อใจแข้งซูเปอร์สตาร์ในทีม ก่อนพา เดอะ แรบบิท คว้าแชมป์เร็วสุดในประวัติศาสตร์ก่อนจบฤดูกาลถึง 6 นัด พร้อมกับเป็นแชมป์ที่ชนะมากที่สุดถึง 24 นัด และ เสียประตูน้อยสุดเพียง 13 ลูก ที่สำคัญ เกือบสร้างสถิติไร้พ่ายได้ด้วย
-
Best XI : ทีมยอดเยี่ยม โตโยต้า ไทยลีก ฤดูกาล 2020-21
โกล ประเทศไทย