ฝนที่ตกต่อเนื่อง ทำให้ จ.สมุทรปราการ มีน้ำท่วมขังบางจุด โดยเฉพาะวัดกิ่งแก้ว ต.ราชาเทวะ ที่เป็นพื้นที่ต่ำ บางจุดเจ้าหน้าที่ต้องนำกระสอบทรายมากั้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ขณะที่กรมชลประทาน เดินหน้าระบายน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำลงสู่ทะเล
วันนี้ (2 ก.ย.2564) เจ้าหน้าที่เทศบาล ต.บางพลี อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ นำถุงกระสอบทรายมาวาง บริเวณถนนหน้าวัดบางพลีใหญ่ หรือวัดหลวงพ่อโต เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน หลังตลอด 4 วันที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนัก น้ำไหลเข้าท่วมขัง บ้านเรือน ผิวการจราจร จึงมีการนำกระสอบทรายมาวางกั้น แม้จะมีน้ำท่วมขัง แต่ยังอยู่ในระดับต่ำ
ขณะที่วัดกิ่งแก้ว ต.ราชาเทวะ มีน้ำท่วมขังในบริเวณวัด โดยเฉพาะอุโบสถ เนื่องจากเป็นพื้นที่ต่ำ วัดก่อสร้างมานาน ยังไม่มีการบูรณะปฏิสังขรณ์ ประกอบกับอยู่ใกล้คลอง ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานอาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่เข้าสูบน้ำระบายออกแล้ว
นิคมฯ บางพลีไม่มีน้ำท่วมขัง
ส่วนที่นิคมอุตสาหกรรมบางพลี อ.บางเสาธง แม้จะอยู่ติดคลองหัวเกลือ แต่พบว่าไม่มีน้ำท่วมขัง เนื่องจากเจ้าหน้าที่มีการเตรียมการกำจัดขยะมูลฝอย และเดินเครื่องสูบน้ำทันที หลังเกิดฝนตกติดต่อกันหลายวัน
กรมชลฯ เร่งผลักดันน้ำลงทะเล
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากอิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักตั้งแต่ วันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลมีน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ อาทิ จ.ฉะเชิงเทรา เกิดฝนตกหนักบริเวณ อ.พนมสารคาม วัดปริมาณฝนได้ 135 มิลลิเมตร ทำให้เกิดน้ำหลากลงสู่พื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณหมู่ 6 ต.หนองแหน อ.พนมสารคาม มีน้ำท่วมขังสูงกว่า 0.5 เมตร ปัจจุบันระดับน้ำลดลง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังบางส่วน
ด้าน อ.บางน้ำเปรี้ยว มีน้ำล้นตลิ่งคลองหกวาสายล่าง บริเวณ ม.1 และ ม.14 ต.บึงน้ำรักษ์ ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 0.23 เมตร โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตใต้ เร่งระบายน้ำออกทางสถานีสูบน้ำสมบูรณ์ และเปิดประตูระบายน้ำปลายคลอง 18-21 เพื่อระบายลงแม่น้ำนครนายก และประตูระบายน้ำ 14-17 ระบายลงสู่คลองบางขนาก และเร่งสูบระบายน้ำในคลองรังสิตอย่างต่อเนื่อง หากไม่มีฝนตกหนักลงมาเพิ่ม คาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติในเร็ววันนี้
คาดสถานการณ์ปกติภายใน 1 วัน
ส่วนที่ จ.สมุทรปราการ ยังคงเหลือน้ำท่วมบริเวณลุ่มต่ำประมาณ 0.20 เมตร แนวโน้มน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง คาดว่าหากไม่มีฝนตกในพื้นที่เพิ่มขึ้น สถานการณ์จะกลับสู่สภาวะปกติภายใน 1 วัน ทั้งนี้ กรมชลประทาน ยังคงเดินเครื่องสูบน้ำบริเวณสถานีสูบน้ำชลหารพิจิตร และสถานีสูบน้ำตามแนวคลองชายทะเลอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังเร่งผลักดันน้ำบริเวณสถานีสูบน้ำชลหารพิจิตร บริเวณสถานีสูบน้ำตำหรุ สถานีสูบน้ำบางปลา และสถานีสูบน้ำคลองด่าน เพื่อระบายน้ำให้ไหลลงสู่ทะเลอ่าวไทยโดยเร็วที่สุด นอกจากนี้ ยังได้ประสานไปยังโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตใต้ให้ทำการระบายตัดยอดน้ำออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา และโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระองค์ไชยานุชิต ให้ระบายตัดยอดน้ำบางส่วนออกสู่แม่น้ำบางปะกง เพื่อลดปริมาณน้ำจากทางตอนบนที่จะไหลเข้ามาเติมในพื้นที่ตอนล่าง
ยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำใกล้ชิด
ทั้งนี้ กรมชลประทาน ยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด แม้ว่าสถานการณ์จะเริ่มคลี่คลายและบางแห่งเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว เนื่องจากยังไม่สิ้นสุดฤดูฝน โดยได้กำชับให้โครงการชลประทานทุกแห่ง ติดตามสภาพอากาศนำมาวิเคราะห์ประเมินสถานการณ์น้ำในพื้นที่ เพื่อประกอบการวางแผนการบริหารจัดการน้ำลดผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด พร้อมทั้งวางแผนเก็บกักน้ำสำหรับไว้ใช้ในฤดูแล้งหน้านี้ด้วย